มรรยาทในการทักทายที่ดีของพนักงานโรงแรม

การให้บริการนั้นเป็นหน้าที่ในชีวิตประจำวันที่พนักงานโรแงรมทุกคนต้องปฏิบัติ ฉะนั้นหากเราต้องการให้ผู้อื่นชื่นชมต่อตัวเราตลอดเวลา เราก็จะต้องปรับปรุงและเสริมสร้างคุณลัษณะของเราให้เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้อื่นและที่สำคัญคือต้องถูกใจตนเองด้วย คุณลักษณะของผู้ให้บริการที่ดีควรประกอบไปด้วย คุณลักษณะทางกาย คือ เป็นประการด่านแรกของการให้บริการเพราะลูกค้าจะสัมผัสเราโดยการมองเห็นก่อน ฉะนั้น การมีบุคลิกภาพที่ดีมีการแสดงออกที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ต้องกระทำก่อนการมีบุคลิกภาพที่ดีนั้น ต้องดีทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งทั้ง 2 ประการมีสาระที่น่าสนใจ ดังนี้

บุคลิกภาพภายนอก ได้แก่

  • ร่างกายสะอาด
  • แต่งกายเหมาะสมกับกาลเทศะ
  • ยิ้มแย้มแจ่มใส
  • กิริยาอ่อนน้อม รู้จักที่จะไหว้ให้เป็นและสวย

บุคลิกภาพภายใน ได้แก่

  • กระตือรือร้น
  • รอบรู้
  • เต็มใจและจริงใจ
  • ความจำดี
  • มีปฏิภาณไหวพริบ
  • มีความรับผิดชอบ
  • มีอารมณ์มั่นคง

การยิ้มแย้มแจ่มใสหน้าต่างบานแรกของหัวใจในการให้บริการคือความรู้สึก ความเต็มใจและความกระตือรือร้นที่จะให้บริการ เป็นความรู้สึกภายในของบุคคลว่าเราเป็นผู้ให้บริการ จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้ประทับใจกลับไปความรู้สึกดังกล่าวนี้ จะสะท้อนมาสู่ภาพที่ปรากฏในใบหน้าและกิริยาท่าทางของผู้ให้บริการ คือการยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายด้วยไมตรีจิต การยิ้มแย้มแจ่มใสจึงถือเป็นบันไดขั้นสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กร การยิ้มคือการเปิดหัวใจการให้บริการที่ดี วันนี้ Jobnsure จะแนะนำวีการทักทายที่คนโรงแรมและภัตตาคารควรนำไปใช้ครับ

  1. ก้มศีรษะพร้อมกับยิ้ม

ผู้ที่ทำงานในโรงแรมและภัตตาคารตั้งแต่ระดับผู้จัดการใหญ่ไปจนถึงพนักงานบริการ จำเป็นต้องทักทายแขก  แต่สภาพที่ทุกอย่างต้องดำเนินไปด้วยความรวดเร็วอย่างนี้ทุกวัน การทักทายจึงรวบรัดเป็นเพียงการก้มศีรษะเท่านั้น  ในที่นี้จะพูดถึงการกล่าวคำทักทายและการตอบรับที่ถูกต้อง

ในการรับส่งแขกนั้นโดยทั่วไปจะต้องกล่าวคำที่เหมาะสม กระตือรือร้น ให้ความรู้สึก อบอุ่น  คำพูดเหล่านี้ควรจดจำไว้ใช้  ตัวอย่างเช่น

                          “ยินดีต้อนรับค่ะ” (ใช้เวลาต้อนรับแขก)

                          “ขอบคุณที่ใช้บริการของเรา ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ (ครับ)” (ใช้เวลาส่งแขก)

เวลาพูดหากก้มศีรษะพร้อมกับยิ้มด้วยจะน่าประทับใจกว่าพูดอย่างขอไปที

  • มารยาทที่ควรปฏิบัติ

พนักงานโรงแรมมักจะต้องเดินสวนทางกับแขกตามทางเดิน ในล็อบบี้  และในลิฟท์ อยู่เสมอ  สภาพเช่นนี้ควรจะกล่าวคำทักทายแขก

เวลาเดินทางควรจะเดินชิดซ้าย โรงแรมบางแห่งจะมีระเบียบห้ามพนักงานเดินตรงกลางทางเดิน

เมื่อแขกเดินตรงมาใกล้ควรกล่าวคำว่า  “สวัสดีค่ะ (ครับ)”  แล้วก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก    

พนักงานหญิงที่กำลังทำความสะอาดห้องพักหรือพนักงานที่ต้องเดินผ่าน ไม่จำเป็นต้องหยุดทำงานเพื่อทักทายแขก  แต่จะทำงานไปพร้อมกับกล่าวคำทักทายไปด้วยก็ได้  แต่ถ้าเป็นแขกคนสำคัญ  ควรจะหยุดทำงานหรือหยุดเดินเพื่อกล่าวคำทักทาย เป็นการแสดงความเคารพเป็นพิเศษ

โรงแรมที่ดีจะต้องให้ความสำคัญต่อเรื่องมารยาทเป็นอย่างมาก  โรงแรมที่ก้าวไม่ถึงระดับแนวหน้านั้น  ที่สำคัญมักเป็นเพราะผู้บริหารละเลยต่อการอบรมมารยาทให้แก่พนักงาน

(1)  การทักทายสร้างความประทับใจต่อแขก

 เมื่อแขกผ่านประตูโรงแรมหรือภัตตาคารเข้ามาก็ได้ยินคำทักทายอย่างเป็นกันเอง ว่า  “ยินดีต้อนรับค่ะ (ครับ)”  พร้อมกับเห็นพนักงานบริการและแคชเชียร์ยืนต้อนรับทักทาย แขกจะเกิดความรู้สึกประทับใจต่างไปจากอยู่ในโรงแรมหรือภัตตาคารอื่นที่ขาดส่วนนี้  การต้อนรับและทักทายแขกในเวลาอาหารเช้าซึ่งเป็นช่วงที่แขกมีอารมณ์ดีเป็นพิเศษ  จะทำให้แขกรู้สึกว่าวันนี้ทุกอย่างคงจะผ่านไป อย่างราบรื่น  ยิ่งได้ฟังเสียงทักทายรื่นหูจากพนักงานบริการหลาย ๆ  คนก็ยิ่งจะทำให้เกิดความพึงพอใจเป็นพิเศษ

 (2)  การปฏิบัติต่อแขกทุกคนอย่างเสมอหน้า

พนักงานบริการบางคนมักจะเคารพนบนอบแขกที่ตนชอบและเย็นชาต่อแขกที่ตนไม่ชอบ  บางคนกระตือรือร้นต่อแขกที่เป็นหญิงสาวสวยเป็นพิเศษ และเฉยเมยไม่เอาใจใส่แขกผู้ชาย หรือคนแก่ บางคนยังเลือกนอบน้อมต่อแขกที่เป็นชาวตะวันตกแต่แข็งกร้าวต่อแขกที่เป็นนิโกร หรือชาวเอเชีย สภาพที่พนักงานบริการปฏิบัติต่อแขกอย่างไม่เสมอหน้าเช่นนี้ มักจะพบเห็นบ่อย ๆ จำเป็นต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดสิ้นและจริงจังนะครับ

About jadmin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *